เป็นเครื่องมือช่างที่มีลักษณะการนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลาย ปากคีมมีคมไว้สำหรับตัดด้านข้าง และสามารถใช้จับชิ้นงานได้อยู่ภายในตัวเดียวกัน
2.คีมปากแหลม (คีมปากจิ้งจก)
ใช้สำหรับจับโลหะแบนหรือสายไฟ ปากคีมมีลักษณะเรียวแหลม และ มีขนาดเล็ก เหมาะกับการใช้งานในที่แคบ และ งานไฟฟ้า
3.คีมปากขยาย
ปากคีมมีลักษณะโค้งมนและสามารถขยายออก ลด ให้แคบลงได้ ลักษณะด้านใน จะทำโค้งเว้าไว้ทั้งสองข้างและมีร่องฟัน เพื่อใช้ในการจับ งานกลม บริเวณปลายปากจะแบนเรียบมีร่องฟัน สามารถปรับปากให้แคบ หรือขยายให้กว้างได้ด้วยสลักเกลียว ซึ่งทำหน้าที่เป็นจุดหมุนใช้จับงานทั่วๆไป ไม่ต้องการความละเอียด หรือ ความประณีตมากนัก เหมาะสำหรับจับงานร้อนและงานที่มีขนาดใหญ่ที่คีมธรรมดาไม่สามารถจับได้ หรือ การใช้งานที่เกี่ยวกับเครื่องกลและงานเครื่องยนต์ประเภทต่าง ๆ
4.คีมปากกลม
ปากด้านนอกมีลักษณะกลม ส่วนปากด้านในจะเจียระไนให้มีลักษณะแบนทั้งสองข้าง ด้ามหุ้มด้วยปลอกพลาสติกหุ้มเหมาะสำหรับงานดัด งานที่เป็นรูห่วง หรือดัดห่วง และงานที่มีความละเอียด เช่น งานไฟฟ้า งานอิเล็กทรอนิกส์
5.คีมปากนกแก้ว หรือ คีมตัด
เป็นเครื่องมือช่างที่ใช้สำหรับงานตัดโดยเฉพาะ ปากคีมมีลักษณะคล้ายกับปากนกแก้ว ส่วนปลายของปากจะมีลักษณะเป็นคมตัดโดยหันขวางกับด้านคม ที่ด้ามจับมีฉนวนหุ้มเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ใช้สำหรับตัดเหล็ก เส้นลวด คีมชนิดนี้ไม่สามารถจับชิ้นงานได้
6.คีมล็อค
ใช้จับนอตหรือชิ้นงานเพื่อป้องกันการหมุนหรือเลื่อนโดยปากปรับขยายให้กว้างได้ และ ล็อคให้แน่น ออกแบบเป็นพิเศษ ใช้งานเฉพาะ ปลายด้ามมีสกรูปรับ มีแบบธรรมดา แบบปากแหลม แบบใช้งานเชื่อม ใช้สำหรับจับหรือบีบชิ้นงานที่แน่นมาก บีบท่อน้ำยาแอร์
7.คีมปอกสายไฟ
เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การทำงานต่าง ๆ เกี่ยวกับสายไฟฟ้าทำได้สะดวกขึ้น คีมดังกล่าวออกแบบมาเพื่อการปอกฉนวนไฟฟ้าที่หุ้มลวดทองแดงอยู่ โดยจะตัดเฉพาะส่วนที่เป็นฉนวนพลาสติกโดยไม่ตัดเส้นลวดทองแดง และยังใช้สำหรับการตัดสายไฟ และใช้ในการย้ำขั้วหางปลาให้ยึดติดกับปลายสายไฟฟ้าด้าย
1. เลือกใช้คีมให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของคีมชนิดนั้นๆ เช่น คีมตัดไม่เหมาะกับการใช้จับ คีมตัดสายไฟฟ้าไม่เหมาะที่จะใช้ตัดแผ่นโลหะ เป็นต้น
2. ฟันที่ปากของคีมจับต้องไม่สึกหรอ ส่วนปากของคีมตัดต้องไม่ทื่อ
3. การจับคีม ควรให้ด้ามคีมอยู่ที่ปลายนิ้วทั้ง 4 แล้วใช้อุ้งมือและนิ้วหัวแม่มือกดด้ามคีมอีกด้าน จะทำให้มีกำลังในการจับหรือตัด
4. การปลอกสายไฟฟ้าควรใช้คีมปลอกสายไฟฟ้าโดยเฉพาะ เพราะจะมีขนาดของรูปเท่ากับขนาดของสายไฟฟ้าพอดีส่วนการตัดสายไฟฟ้าหรือเส้นลวดที่ไม่ต้องการให้โผล่จากชิ้นงานควรใช้คีมตัดปากทแยง
5. ไม่ควรใช้คีมตัดโลหะที่มีขนาดใหญ่หรือแข็งเกินไป แต่ให้ใช้กรรไกรแทน
6. ไม่ควรใช้คีมขันหรือคลายหัวนอต เพราะจะทำให้หัวนอตชำรุด
7. ถ้าต้องจับชิ้นงานให้แน่นควรใช้คีมล็อก
8. ถ้าชิ้นงานมีขนาดใหญ่ ควรใช้คีมปากขยาย การใช้คีมที่ปากเล็กจะไม่มีกำลังที่จะจับชิ้นงานให้แน่น เพราะ ด้ามของคีมจะถ่างมากไป
9. ถ้าต้องการเก็บคีมไว้นาน ควรหยอดน้ำมันที่จุดหมุนของคีม และควรมีการหยอดน้ำมันเป็นระยะ
10.หลังจากเลิกใช้งานประจำวัน ควรเช็ดทำความสะอาด แล้วเก็บไว้ในที่ที่จัดเตรียมไว้หรือที่ปลอดภัย
1. ใช้คีมให้ถูกประเภทกับงาน
2. ไม่ควรบีบคีมแรงเกินไปเพราะจะทำให้คีมหัก
3. ไม่ควรใช้ค้อนทุบคีมแทนการตัด
4. ไม่ใช้คีมแทนค้อนหรือเครื่องมืออื่นๆ
5. เช็ดทำความสะอาด หยดน้ำมันที่จุดหมุน แล้วชโลมน้ำมันหลังการใช้งาน
หน้าที่เข้าชม | 48,982 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 25,455 ครั้ง |
เปิดร้าน | 18 ต.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 16 ก.ย. 2568 |